พม.ผุดสมุดพกครอบครัว วางเป้าชาวไทยไม่มีจนกระทั่ง
พม.ผุดสมุดพกครอบครัว ตั้งเป้าหมายคนประเทศไทยไม่มีกระทั่ง
นายตาย ไกรเวลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและก็ความยั่งยืนของผู้คน (พม.) เผยวันหลังมอบแผนการการขับเขยื้อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตกรุ๊ปบอบบางระดับพื้นที่ให้กับประธานกระทรวง พม.ทั่วราชอาณาจักร ทั้งยังศูนย์กลางและก็ส่วนภูมิภาคในบังกะโลปรินซ์ พาเลซ มหานาค จังหวัดกรุงเทพ ว่า จากที่ข้อมูลตรวจสอบของกระทรวง พม. เจอเมืองไทยมีครอบครัวบอบบาง หรือครอบครัวอนาถา ปริมาณ 4.1 ล้านครอบครัว นำมาซึ่งการเอ็มโอยูกับ 12 กระทรวง แล้วก็ 1 หน่วยงานเป็น จังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อบูรณาการการแก้ปัญหาความอนาถาอย่างเป็นจริงเป็นจัง
และก็เอามาสู่การตั้งคณะกรรมการกำจัดความจนรวมทั้งปรับปรุงคนทุกตอนวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (คจพ.) ซึ่งมี พล.อำเภอประวิตร วงษ์กาญจน์ รองนายกฯ เป็นประธานนั้น คณะกรรมการ คจพ.จัดแจงสัมมนาหนแรกในวันที่ 19 เดือนมีนาคมนี้ ดังนี้ สำหรับเพื่อการแก้ปัญหาครอบครัวบอบบางนั้น จะมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก ส่วนหน่วยงานที่เหลือจะร่วมแก้ไขปัญหา ภายใต้จุดหมายคนยากจนจำเป็นต้องหมดจากเมืองไทย ส่วนจะตั้งเป้าหมายใช้เวลาปฏิบัติงานกี่ปีนั้น ยังไม่รู้ แต่ว่าพวกเรามองเมืองจีนที่ใช้เวลาขจัดปัญหาความยากจนข้นแค้น 12 ปี เขามีอำนาจและก็ทรัพยากรมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นไทยก็จะบากบั่นใช้เทคโนโลยีมาช่วยในเรื่องความเที่ยงตรง บริการข้อมูล เพิ่มความรวดเร็ว และก็ติดต่อประสานงาน ก็เชื่อถือว่าจะช่วยลดการขัดกันไปได้มากมาย
นายตายกล่าวอีกว่า สำหรับการทำงาน พวกเราจะใช้ของใหม่สมุดพกครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งใหม่กำจัดความยากไร้ของหลายประเทศ อย่างจีนได้เอามาทำสูงที่สุด สิ่งใหม่นี้คล้ายกับการที่ผู้เจ็บป่วยมาอยู่ภายในห้องห้องดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาล แล้วมีหมอเฉพาะทางหรือแต่ละกระทรวงมาดูว่าจะรักษาได้เช่นไรให้คนเจ็บหาย แล้วหลังจากนั้นก็ใช้ยารักษาหรือมีมาตรการช่วยเหลือ โดย พล.อำเภอประวิตรจะเป็นเหมือนหัวหน้าแพทย์ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกเมืองมตรีรวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นเหมือนผู้อำนวยการโรงหมอ ส่วน พม.จะเป็นหมอประจำตัวคนเจ็บ มีบทบาทมอนิเตอร์และก็รายงานให้หัวหน้าหมอรวมทั้งผู้อำนวยการโรงหมอรู้ โดยจะมีการปรับการดูแลและรักษาหรือมีมาตรการช่วยเหลือให้สมควร
ดังนี้ สมุดพกครอบครัวจะทำเป็นเล่มเก็บไว้ให้แต่ละบ้าน และก็ทำเป็นสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ที่แต่ละกระทรวงสามารถมอนิเตอร์ได้ เพื่อจะทราบดีว่าจำต้องปฏิบัติภารกิจอะไร โดยสมุดนี้จะใจความสำคัญข้อด้อย คุณลักษณะเด่นของครอบครัว เป็นต้นว่า เข้าถึงสาเหตุ 4 อย่าง น้ำกินสะอาด มีเสื้อผ้าที่ใส่อย่างมีเกียรติความเป็นคนไหม เข้าถึงสิทธิรวมทั้งผลประโยชน์ภาครัฐหรือยัง ลดละเลิกอบายมุขหรือเปล่า ตลอดจนมีอาชีพไหม เมื่อทราบภาวะปัญหาทั้งปวง ก็จะเอามาสู่การวิเคราะห์หาวิธีแก้ปัญหา แล้วก็มีการติดตามให้คะแนนทุก 3 เดือน จวบจนกระทั่งคนป่วยรายนี้จะออกมาจากห้องห้องดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาล อย่างไรก็แล้วแต่ มั่นใจว่าถ้าเกิดครอบครัวอนาถาได้เข้าถึงมาตรการรอบด้าน จะก่อให้มีการดำรงชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
พม.ผุดสมุดพกครอบครัว ตั้งเป้าหมายคนประเทศไทยไม่มีกระทั่ง นายตาย ไกรเวลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและก็ความยั่งยืนของผู้คน (พม.) เผยวันหลังมอบแผนการการขับเขยื้อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตกรุ๊ปบอบบางระดับพื้นที่ให้กับประธานกระทรวง พม.ทั่วราชอาณาจักร ทั้งยังศูนย์กลางและก็ส่วนภูมิภาคในบังกะโลปรินซ์ พาเลซ มหานาค จังหวัดกรุงเทพ ว่า จากที่ข้อมูลตรวจสอบของกระทรวง พม. เจอเมืองไทยมีครอบครัวบอบบาง หรือครอบครัวอนาถา ปริมาณ 4.1 ล้านครอบครัว นำมาซึ่งการเอ็มโอยูกับ 12 กระทรวง แล้วก็ 1 หน่วยงานเป็น จังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อบูรณาการการแก้ปัญหาความอนาถาอย่างเป็นจริงเป็นจัง และก็เอามาสู่การตั้งคณะกรรมการกำจัดความจนรวมทั้งปรับปรุงคนทุกตอนวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (คจพ.) ซึ่งมี พล.อำเภอประวิตร วงษ์กาญจน์ รองนายกฯ เป็นประธานนั้น คณะกรรมการ คจพ.จัดแจงสัมมนาหนแรกในวันที่ 19 เดือนมีนาคมนี้ ดังนี้ สำหรับเพื่อการแก้ปัญหาครอบครัวบอบบางนั้น จะมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก ส่วนหน่วยงานที่เหลือจะร่วมแก้ไขปัญหา ภายใต้จุดหมายคนยากจนจำเป็นต้องหมดจากเมืองไทย ส่วนจะตั้งเป้าหมายใช้เวลาปฏิบัติงานกี่ปีนั้น ยังไม่รู้ แต่ว่าพวกเรามองเมืองจีนที่ใช้เวลาขจัดปัญหาความยากจนข้นแค้น 12 ปี เขามีอำนาจและก็ทรัพยากรมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นไทยก็จะบากบั่นใช้เทคโนโลยีมาช่วยในเรื่องความเที่ยงตรง บริการข้อมูล เพิ่มความรวดเร็ว และก็ติดต่อประสานงาน…